ขนาด
วาฬ/โลมา
  • 22 เมษายน 2557
  • 825
วาฬ/โลมา สารสนเทศ ทช. ศูนย์ข้อมูลกลาง ทช.

การท่องเที่ยวชมวาฬและโลมา

          ในต่างประเทศการชมโลมาและวาฬนั้น ทำได้ 3 วิธี คือ 1) ทางเรือขนาดกลางถึงใหญ่ 2) เรือแคนู (Sea kayak) และ 3) ทางบก โดยการปีนขึ้นไปดูบนที่สูงบริเวณชายฝั่ง (Hiking) การท่องเที่ยวเพื่อชมวาฬครั้งแรกคือการดูวาฬสีน้ำเงิน (Blue whale) เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1955 ที่ซานดิเอโก ประเทศสหรัฐอเมริกา ในปี ค.ศ. 1985 ที่ประเทศอังกฤษ นักท่องเที่ยวนิยมไปชมวาฬหลังค่อม (Humpback whale)  กันมาก เพราะวาฬหลังค่อมมีพฤติกรรมที่ดึงดูดนักท่องเที่ยว เช่น การโผล่ขึ้นกินอาหาร (Lunge feeding) การกระโดดขึ้นเหนือผิวน้ำทะเล (Breaching) การโบกสะบัดหาง (Tail-slapping) และหลังจากปี ค.ศ. 1980 เป็นต้นมา ธุรกิจการท่องเที่ยวชมโลมาและวาฬมีการแพร่กระจายไปในประเทศต่างๆ ทั่วโลก มากกว่า 87 ประเทศ มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 9 ล้านคนต่อปี ประมาณรายได้จากธุรกิจนี้ทั่วโลกในปี ค.ศ. 2000 จากนักท่องเที่ยวจำนวน 11.3 ล้านคน ประมาณ 1.475 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ การส่งเสริมการท่องเที่ยวชมโลมาและวาฬในประเทศไทย เช่น โลมาอิรวดีที่ปากแม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา โลมาอิรวดีที่อ่าวตราด จ.ตราด โลมาหลังโหนกหรือโลมาเผือกที่อ่าวขนอม จ.นครศรีธรรมราช โลมาหลังโหนกที่บ้านตะเสะ จ.ตรัง และวาฬบรูด้าบริเวณอ่าวไทยตอนบน นอกชายฝั่งของ จ.สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และเพชรบุรี การชมโลมาและวาฬโดยทางเรือนั้น หากไม่ปฏิบัติตามคู่มือการชม และจำกัดจำนวนเรือแล้วนั้น ย่อมจะรบกวนวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของโลมาและวาฬแน่นอน เช่น รบกวนการกินอาหาร การเลี้ยงดูลูก หรือการผสมพันธุ์ ก่อให้เกิดอันตรายต่อสัตว์เหล่านี้ ทำให้บาดเจ็บ หรืออาจเป็นสาเหตุทำให้สัตว์เกิดการเจ็บป่วยเรื้อรัง เช่น ผลกระทบจากเรื่องเสียงใต้น้ำ (Under water sounds) การเฉี่ยวชนจากเรือ (Vessel strike) เป็นต้น ผลกระทบของเสียง (Noise as a stressor) จะไปรบกวนการสื่อสารระหว่างกันในฝูง ลดความสามารถในการได้ยินเสียงระหว่างกัน ทำให้สูญเสียความสามารถในการกำหนดทิศทางการเดินทางและการหาเหยื่อ รบกวนการพักผ่อน หรือปฏิกิริยาของสัตว์ต่อสังคมในฝูงเปลี่ยนแปลงไป ซึ่งอาจเปลี่ยนไปทั้งในระยะสั้นหรือระยะยาวขึ้นกับผลกระทบที่เกิดขึ้นว่ามีมากหรือน้อยเพียงใด

แหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ชมโลมาและปลาวาฬ

โลมาและวาฬชนิดที่พบเห็นได้บ่อย รวมทั้งพื้นที่ที่มีศักยภาพในการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชมโลมาและวาฬ ดังนี้

1. โลมาอิรวดี (Irrawaddy dolphin: Orcaella brevirostris)  
1.1 อ่าวตราด จ.ตราด ไปจรดชายแดนกัมพูชา กลุ่มประชากรทั้งหมดไม่น้อยกว่า 100 ตัว แต่อยู่กระจายเป็นฝูง ฝูงละ 5-20 ตัว Click
1.2 ปากแม่น้ำบางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา ออกไปจนถึงอ่างศิลา จ.ชลบุรี ประชากรอย่างน้อย 30 ตัว  Click
1.3 ปากแม่น้ำท่าจีน อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ประชากรอย่างน้อย 30 ตัว  
1.4 ปากแม่น้ำบางตะบูน  อ.บ้านแหลม จ.เพชรบุรี ประชากรอย่างน้อย 30 ตัว  Click
1.5 ทะเลสาบสงขลา (ส่วนของทะเลน้อย จ.พัทลุง) ประชากรเหลืออยู่น้อยมาก อาจน้อยกว่า 20 ตัว  
1.6 หมู่เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล ประชากรประมาณ 20 ตัว  Click
2. โลมาหลังโหนก หรือโลมาเผือก (Indo-Pacific Humpback dolphin: Sousa chinensis  
2.1 อ่าวขนอม จ.นครศรีธรรมราช ประชากรประมาณ 55 ตัว   Click
2.2 บ้านตะเสะ อ.กันตัง จ.ตรัง  ประชากรประมาณ 50 ตัว  Click
3. โลมาปากขวด (Indo-Pacific bottlenose dolphin, Tursiops aduncus)  
กลุ่มประชากรประมาณ 20-30 ตัว แพร่กระจายอยู่ในอ่าวพังงาตอนใน บริเวณเกาะไข่นอก-ไข่ใน จ.พังงา เกาะไม้ท่อน เกาะเฮ และเกาะแอว จ.ภูเก็ต  
4. วาฬบรูด้า (Bryde’s whale: Balaenoptera edeni)  
บริเวณอ่าวไทยตอนบน พบบริเวณนอกชายฝั่งของ จ.ชลบุรี สมุทรปราการ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และเพชรบุรี  (นอกจากนี้ยังพบเป็นครั้งคราว บริเวณเกาะราชา จ.ภูเก็ต เกาะสุรินทร์ จ.พังงา) วาฬบรูด้า เป็นสัตว์ประจำถิ่นที่พบได้ในอ่าวไทย ซึ่งอาจมีบางตัวที่มีการอพยพเคลื่อนย้ายตามแหล่งอาหาร  

แผนที่การท่องเที่ยวชมปลาวาฬและโลมา

องค์ความรู้ที่น่าสนใจ
  • แมงกะพรุนพิษ
    เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง จัดอยู่ในไฟลัมไนดาเรีย (Cnidaria) เช่นเดียวกันกับดอกไม้ทะเล (sea anemones) และปะการัง แมงกะพรุนที่พบได้บ่อยที่สุดจัดอยู่ในกลุ่ม Scyphozoa
  • พะยูน : มาเรียม
    พะยูน : มาเรียม
  • ปลานกแก้ว
    ปลานกแก้ว
  • สมุทรศาสตร์
    สมุทรศาสตร์
  • หญ้าทะเล
    หญ้าทะเล
  • ป่าชายเลน
    ป่าชายเลน
  • ป่าชายหาดและป่าพรุ
    ป่าชายหาดและป่าพรุ
  • พะยูน
    พะยูน
  • เกาะในประเทศไทย
    เกาะ หมายถึง บริเวณที่ดิน หิน หรือทรายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ล้อมรอบด้วยน้ำและอยู่เหนือน้ำตลอดเวลา ทั้งนี้เกาะอาจอยู่ในทะเล แม่น้ำ หรือที่ลุ่มขัง เช่น บึง หรือทะเลสาบก็ได้