ขนาด
น้ำทะเลเปลี่ยนสี
  • 19 เมษายน 2565
  • 832
น้ำทะเลเปลี่ยนสี สารสนเทศ ทช. ศูนย์ข้อมูลกลาง ทช.

การเกิดน้ำทะเลเปลี่ยนสี พ.ศ.2564

          ปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสีจากการสะพรั่งของแพลงก์ตอนพืช ปีงบประมาณ 2564 (ตุลาคม พ.ศ. 2563 – กรกฎาคม พ.ศ. 2564) พบเฉพาะในพื้นที่ชายฝั่งอ่าวไทย จำนวน 25 ครั้ง โดยเฉพาะจังหวัดชลบุรี พบปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสี 16 ครั้ง ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถึง เดือนกรกฎาคม รองลงมา คือ จังหวัดระยอง และจังหวัดสุราษฎร์ธานี พื้นที่ละ 2 ครั้ง ส่วนในพื้นที่ชายฝั่งอันดามัน พบการสะพรั่งของสาหร่ายสีแดง สกุล Hypnea ซึ่งมีกลุ่มไดอะตอมเจริญร่วมอยู่ด้วย บริเวณหาดป่าตอง จังหวัดภูเก็ต จำนวน 1 ครั้ง

          สาเหตุที่พบน้ำทะเลเปลี่ยนสีในพื้นที่จังหวัดชลบุรีบ่อยครั้ง และกินระยะเวลานาน โดยเฉพาะในฤดูฝน ปัจจัยที่เป็นต้นเหตุของปรากฏการณ์ดังกล่าวมาจาก น้ำทิ้งที่มีสาเหตุมาจากขยายตัวของชุมชน บ้านเรือน อุตสาหกรรม และเกษตรกรรม ประกอบกับอิทธิพลของลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้กระแสน้ำในอ่าวตัว ก ในช่วงฤดูฝนมีทิศทางการไหลแบบตามเข็มนาฬิกา ทำให้มวลแพลงก์ตอนเคลื่อนตัวเข้ามายังชายฝั่งด้านตะวันออก จึงเป็นสาเหตุของการเกิดปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสีบ่อยครั้งโดยเฉพาะบริเวณชายหาดบางแสน เขตอำเภอเมืองชลบุรี และตลอดแนวชายฝั่งของจังหวัดชลบุรี ส่วนจังหวัดภูเก็ตพบน้ำทะเลเปลี่ยนสีในช่วงต้นปีเนื่องจากเป็นช่วงฤดูการท่องเที่ยว มีปริมาณนักท่องเที่ยว และกิจกรรมชายฝั่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นตามมา ซึ่งทำให้เกิดน้ำทิ้งที่ผ่านการบำบัดไม่ถูกต้องไหลลงสู่ชายฝั่งและเป็นสารอาหารที่เหมาะสม รวมทั้งปริมาณแสงแดดที่เพียงพอแก่ความต้องการในการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่วนพื้นที่ชายฝั่งตั้งแต่กรุงเทพมหานคร – จังหวัดชุมพร จะพบน้ำทะเลเปลี่ยนสีในช่วงปลายฤดูฝน 

          แพลงก์ตอนพืชกลุ่มหลักที่เป็นสาเหตุของปรากฏการณ์น้ำทะเลเปลี่ยนสีในจังหวัดชลบุรี คือ กลุ่มไดโนแฟลกเจลเลต ชนิด Noctiluca scintillans โดยทำให้สีน้ำทะเลเป็นสีเขียว นอกจากนี้ยังพบการสะพรั่งร่วมของกลุ่มไดอะตอม เช่น ชนิด Thalassionema frauenfeldii, Chaetoceros curvisetus, Chaetoceros furcellatus และ Chaetoceros spp. ทำให้สีน้ำทะเลเป็นสีน้ำตาล อย่างไรก็ตามภาพรวมของการสะพรั่งของแพลงก์ตอนพืชของประเทศไทยลดลงจากระหว่างปี พ.ศ. 2559 – 2562 โดยเฉพาะพื้นที่ชายฝั่งจังหวัดภูเก็ตที่ไม่พบการสะพรั่งของแพลงก์ตอนพืชระหว่างปี พ.ศ. 2563 – 2564 พบเฉพาะสาหร่ายขนาดใหญ่หลุดลอยมาบนหาดป่าตองจำนวนมากในช่วงที่มีคลื่นลมแรงเท่านั้น อย่างไรก็ตามพบว่าการเกิดน้ำทะเลเปลี่ยนในปี 2564 (มกราคม - กรกฎาคม) พบสูงกว่าปี พ.ศ. 2563 เนื่องจากในจังหวัดชลบุรี มีการรายงานการเกิดปรากฏการณ์กระจายในหลายพื้นที่ในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน โดยมีรายละเอียดการเกิดน้ำทะเลเปลี่ยนสีปีงบประมาณ 2564 ดังนี้

          จังหวัดตราด พบน้ำทะเลเปลี่ยนสี จำนวน 1 ครั้ง บริเวณเกาะไม้ซี้ใหญ่-เกาะฝาละมีเหนือ โดยมีแพลงก์ตอนพืชที่เป็นสาเหตุ คือ Noctiluca scintillans

          จังหวัดจันทบุรี พบน้ำทะเลเปลี่ยนสี จำนวน 1 ครั้ง บริเวณหาดบางกะไชย โดยมีแพลงก์ตอนพืชที่เป็นสาเหตุ คือ Noctiluca scintillans

          จังหวัดระยอง พบน้ำทะเลเปลี่ยนสี จำนวน 2 ครั้ง บริเวณหาดพลาและหาดน้ำริน โดยมีแพลงก์ตอนพืชที่เป็นสาเหตุ คือ Leptocylindrus sp. และ Helicotheca tamesis

          จังหวัดชลบุรี พบน้ำทะเลเปลี่ยนสี จำนวน 16 ครั้ง บริเวณเกาะสีชัง บางแสนและศรีราชา โดยมีแพลงก์ตอนพืชที่เป็นสาเหตุ คือ Noctiluca scintillans และ Chaetoceros spp.

          จังหวัดสมุทรปราการ พบน้ำทะเลเปลี่ยนสี จำนวน 1 ครั้ง บริเวณชายฝั่งทะเลคลองด่าน โดยมีแพลงก์ตอนพืชที่เป็นสาเหตุ คือ Noctiluca scintillans

          จังหวัดสมุทรสาคร พบน้ำทะเลเปลี่ยนสีจำนวน จำนวน 1 ครั้ง บริเวณคลองเฉลิมพระเกียรติบางสีคต ชายทะเลกาหลง จังหวัดสมุทรสาคร โดยมีแพลงก์ตอนพืชที่เป็นสาเหตุ คือ Chaetoceros spp.

          จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบน้ำทะเลเปลี่ยนสี 2 ครั้ง บริเวณหาดเฉวง เกาะสมุย และอ่าวโตนดเกาะเต่า โดยแพลงก์ตอนพืชที่เป็นสาเหตุ คือ Trichodesmium erythraeum

          จังหวัดสงขลา พบน้ำทะเลเปลี่ยนสี จำนวน 1 ครั้ง บริเวณทะเลสาบสงขลาตอนล่าง (หน้าศูนย์วิจัยฯ) โดยแพลงก์ตอนพืชที่เป็นสาเหตุ คือ กลุ่ม Class Chlorophyceae

          จังหวัดภูเก็ต ไม่พบน้ำทะเลเปลี่ยนสีเนื่องจากแพลงก์ตอนพืช แต่พบการสะพรั่งของสาหร่ายขนาดใหญ่ จำนวน 1 ครั้ง บริเวณอ่าวป่าตอง จังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2564 โดยสาหร่ายที่เป็นสาเหตุ คือ สาหร่ายสีแดงสกุล Hypnea ทั้งนี้ พบไดอะตอมเจริญร่วมอยู่ด้วย

ที่มา : สถานการณ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 2564

องค์ความรู้ที่น่าสนใจ
  • ปะการังฟอกขาว
    ปะการังฟอกขาว เป็นสภาวะที่ปะการังสูญเสียสาหร่ายเซลล์เดียวที่อาศัยอยู่ภายในเนื้อเยื่อ ทำให้ปะการังอ่อนแอเพราะได้รับสารอาหารไม่เพียงพอแลปะการังอาจตายไปในที่สุดถ้าหากไม่สามารถทนต่อสภาวะนี้ได้
  • ขยะทะเล
    ขยะทะเล
  • น้ำมันรั่วไหล
    การเกิดน้ำมันรั่วไหล (Oil spill) ในทะเล และชายฝั่งอาจเกิดจากกิจกรรมต่าง ๆ ได้แก่ การขุดเจาะและขนส่งน้ำมัน การเดินเรือ การล้างถังอับเฉาเรือ ลักลอบทิ้งน้ำที่มีน้ำมันปนเปื้อนหรือน้ำมันที่ใช้แล้ว
  • พะยูน
    พะยูน
  • อาณาเขตทางทะเล
    ประเทศไทย มีอาณาเขตทางทะเล (maritime zone) ตามอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยกฎหมายทะเล ค.ศ. 1982 กว่า 350,000 ตารางกิโลเมตร ซึ่งมากกว่า 2 ใน 3 ของอาณาเขตทางบก ที่มีอยู่ประมาณ 513,000 ตารางกิโลเมตร โดยมีความยาวของชายฝั่งทะเล ทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน รวมถึงช่องแคบมะละกาตอนเหนือ รวมความยาวชายฝั่งทะเลในประเทศไทยทั้งสิ้นกว่า 3,148.23 กิโลเมตร ครอบคลุม 23 จังหวัด
  • พื้นที่อนุรักษ์
    หมายถึง พื้นที่มีคุณค่าทางธรรมชาติ นิเวศ หรือวัฒนธรรมที่ควรจะอนุรักษ์ไว้สำหรับลูกหลานในอนาคต พื้นที่คุ้มครองถูกกำหนดขึ้นตามกฎหมายหรือกฎระเบียบอื่นๆ เพื่อให้เกิดการจัดการในรูปแบบต่างๆ เช่น อุทยานแห่งชาติ ป่าสงวน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า การจัดการของพื้นที่คุ้มครองจะมีความหลากหลาย ตั้งแต่พื้นที่ที่มีการจำกัดการเข้าถึงของประชาชนจนถึงพื้นที่ ที่ประชาชนสามารถเข้าไปใช้ประโยชน์ได้ในระดับต่างกัน พื้นที่คุ้มครองครอบคลุมทั้งพื้นที่บนบกและในทะเล
  • แมงกะพรุนพิษ
    เป็นสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลัง จัดอยู่ในไฟลัมไนดาเรีย (Cnidaria) เช่นเดียวกันกับดอกไม้ทะเล (sea anemones) และปะการัง แมงกะพรุนที่พบได้บ่อยที่สุดจัดอยู่ในกลุ่ม Scyphozoa
  • นกในเขตชายฝั่งทะเล
    นกในระบบนิเวศชายฝั่งทะเล
  • เกาะในประเทศไทย
    เกาะ หมายถึง บริเวณที่ดิน หิน หรือทรายที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ล้อมรอบด้วยน้ำและอยู่เหนือน้ำตลอดเวลา ทั้งนี้เกาะอาจอยู่ในทะเล แม่น้ำ หรือที่ลุ่มขัง เช่น บึง หรือทะเลสาบก็ได้