นกในเขตชายฝั่งทะเล
- 3 สิงหาคม 2561
- 1,576
ถิ่นอาศัยในระบบนิเวศชายฝั่งทะเล
เป็นพื้นที่เชื่อมต่อของระบบนิเวศทะเลกับระบบนิเวศบกที่มีคุณค่าและ ความสำคัญต่อชนิดพันธุ์พืชและสัตว์ สามารถเปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาลที่เกิดขึ้นในรอบปี เป็นตัวดึงดูดให้นกประจำถิ่น และนกอพยพย้ายถิ่นในช่วงฤดูหนาวเข้ามา ใช้ระบบนิเวศนี้เป็นแหล่งอาศัย ขยายพันธุ์ และหากินไม่น้อยกว่า 280 ชนิด กระจายอยู่ในพื้นที่ต่าง ๆ ที่มีความสอดคล้องและเหมาะสมกับรูปร่าง ขนาด และพฤติกรรมการหากินของนกแต่ละประเภท ดังนี้
ป่าชายเลน
เป็นผืนป่าที่เชื่อมต่อระหว่างระบบนิเวศทะเลและแผ่นดิน ซึ่งพบมาก บริเวณปากแม่น้ำ ตามแนวชายฝั่งที่เป็นหาดโคลนหรือหาดเลนน้ำท่วมถึง พันธุ์ไม้ในระบบนิเวศนี้จะมีระบบรากหายใจที่โผล่ขึ้นมาเหนือพื้นดินหลากหลาย
รูปแบบ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำขึ้น-น้ำลง การหมุนเวียนของธาตุอาหารและอินทรียสารในป่าชายเลน นับเป็นจุดเริ่มต้น ของวงจรชีวิตสัตว์ทะเลที่สมบูรณ์มากที่สุดในระบบนิเวศชายฝั่ง สามารถเป็น
แหล่งอาศัย หากิน และสร้างรังวางไข่ของสัตว์บกและสัตว์ทะเลได้หลากหลาย ชนิดรวมทั้ง “นก” เริ่มตั้งแต่เรือนยอดจนถึงใต้พื้นดิน นกที่อาศัยอยู่ในป่าชายเลนประกอบด้วย นกประจำถิ่นและนกอพยพ
ที่พบเห็นได้ในป่า แต่นกบางชนิดพบได้เฉพาะในป่าชายเลนเท่านั้น เช่น นกกระจ้อยป่าโกงกาง (Golden-billed Gerygone) นกโกงกางหัวโต (Mangrove Whistler) นกกินปลีคอสีทองแดง (Copper-throated Sunbird) นกแต้วแล้ว ป่าชายเลน (Mangrove Pitta) นกกะเต็นใหญ่ปีกสีน้ำตาล (Brown-winged Kingfisher)
นาเกลือ
เป็นแหล่งอาศัยที่สำคัญของนกน้ำประจำถิ่น และนกอพยพในช่วงฤดูหนาว มีลักษณะเป็นพื้นที่เปิดโล่งและมีขนาดใหญ่ จึงเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์น้ำ และสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กจำนวนมากในพื้นที่ทำนาเกลือ โดยเฉพาะพื้นที่เก็บน้ำ
ที่เรียกว่า “นาวัง และนาตาก” เปรียบเสมือนแหล่งหากินที่สองของนกในช่วงเวลาน้ำขึ้นจนท่วมหาดเลนชายฝั่ง นกที่เข้ามาอาศัยและหากินในพื้นที่นาเกลือประกอบด้วยนกที่มีขนาดเล็ก จนถึงขนาดใหญ่ เช่น นกกระสานวล (Grey Heron) นกยางโทนใหญ่ (Great Egret) นกกาน้ำเล็ก (Little Cormorant) นกเหล่านี้จะหากินอยู่ตาม บ่อเก็บน้ำที่เรียกว่า “นาวัง” ซึ่งมีระดับน้ำลึกกว่า 30 ซม. ส่วนนกที่ีีขาสั้นหรือ มีขนาดเล็กจะหากินตามแหล่งน้ำตื้นไม่เกิน 5 ซม. เช่น กลุ่มนกสติ๊นท์ (Stint) กลุ่มนกหัวโต (Plover) รวมทั้งกลุ่มนกนางนวลขนาดใหญ่ (Gull) และกลุ่มนก นางนวลแลบ (Tern) ก็เข้ามาใช้พื้นที่นาเกลือเป็นแหล่งพักผ่อนด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ยังพบนกอีกหลายชนิดที่อยู่ในบัญชีรายชื่อถูกคุกคามระดับโลก เช่น นกชายเลนปากช้อน (Spoon-billed Sandpiper) นกทะเลขาเขียว ลายจุด (Nordmann’s Greenshank) นกน็อทใหญ่ (Great Knot) นกอีก๋อยใหญ่ (Eurasian Curlew) และนกกาบบัว (Painted Stork) โดยเฉพาะนาเกลือที่อยู่ใกล้กับชายฝั่งทะเลพบว่า มีความหลากหลายทางด้านชนิดพันธุ์ และจำนวนประชากรหนาแน่นกว่าพื้นที่ทำนาเกลือ ที่อยู่ห่างไกลจากชายฝั่งทะเล
หาดเลนน้ำท่วมถึง
เป็นพื้นที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของนกหลายแสนตัว โดยเฉพาะนกอพยพ ที่บินย้ายถิ่นเข้ามาอาศัยอยู่ตามแนวชายฝั่งของประเทศไทยในช่วงฤดูหนาว เนื่องจากหาดเลนชายฝั่งเป็นแหล่งรองรับธาตุอาหารและอินทรียวัตถุของพืช และสัตว์ที่ไหลปะปนมากับแม่น้ำสายต่าง ๆ จากพื้นที่ราบลุ่มในแผ่นดิน ก่อเกิดเป็นระบบนิเวศหาดเลนที่สมบูรณ์ และหนาแน่นไปด้วยสัตว์ทะเล หน้าดินและสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กเป็นจำนวนมาก นกที่พบหากินอยู่บนหาดเลนประกอบด้วยนกประจำถิ่นและนกอพยพ ย้ายถิ่นในช่วงฤดูหนาว เช่น กลุ่มนกน้ำ (Water birds) กลุ่มนกชายเลน (Shorebirds)และกลุ่มนกทะเล (Seabirds) ในกลุ่มนกเหล่านี้มีหลายชนิดอยู่ในสถานภาพถูกคุกคามในระดับโลก เช่น นกชายเลนปากช้อน (Spoon-billed Sandpiper) นกทะเลขาเขียวลายจุด (Nordmann’s Greenshank) นกอีก๋อยใหญ่ (Eurasian Curlew) และนกตะกรุม (Lesser Adjutant) ซึ่งเป็นนกประจำถิ่นของไทย ปัจจุบันพบว่า นกปากห่าง (Asian Openbill) ได้ขยายพื้นที่หากินลงไปบนหาดเลนของจังหวัดสมุทรปราการด้วย
พื้นที่เลี้ยงสัตว์น้ำ
เป็นแหล่งอาศัยและหากินของนกที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อประกอบอาชีพ มีด้วยกัน 2 ประเภท คือ พื้นที่เลี้ยงสัตว์น้ำในแผ่นดิน จะมีระดับความลึกของน้ำ มากกว่า 1 เมตร โดยใช้วิธีปิด-เปิดประตูน้ำตามช่วงเวลาน้ำขึ้น-น้ำลง แล้วปล่อยให้สัตว์น้ำเข้ามาอาศัยอยู่ในบ่อจนมีขนาดตามที่ต้องการจึงจับผลผลิตไปขาย ในช่วงเวลาปล่อยน้ำออกจากบ่อเพื่อจับผลผลิต จะมีนกน้ำและนกชายเลน หลากหลายชนิดเข้ามาหากินจำนวนมาก เช่น กลุ่มนกยาง (Egret) กลุ่มนกกระสา (Stork) กลุ่มนกชายเลน (Shorebirds) ที่ีขายาวและขาสั้น เช่น กลุ่มนกปากแอ่น (Godwit) กลุ่มนกหัวโต (Plover) กลุ่มนกสติ๊นท์ (Stint) เป็นต้น
ส่วนพื้นที่เลี้ยงสัตว์น้ำในทะเล เป็นพื้นที่เลี้ยงหอยชนิดต่าง ๆ เช่น หอยแมลงภู่ หอยแครง และหอยนางรม พื้นที่เหล่านี้จะใช้ไม้ไผ่หรือเสาไฟฟ้า ปักลงไปบนพื้นดิน โดยเหลือปลายเสาสูงกว่าระดับน้ำทะเลขึ้นสูงสุด จึงเป็นการ
เกื้อกูลให้กับนกน้ำและนกทะเลหลายชนิด ใช้เป็นแหล่งพักอาศัยและหลับนอน เช่น กลุ่มนกนางนวลขนาดใหญ่ (Gull) กลุ่มนกนางนวลแกลบ (Tern) กลุ่มนกกาน้ำ (Cormorant) กลุ่มนกยาง (Egret) เป็นต้น
เกื้อกูลให้กับนกน้ำและนกทะเลหลายชนิด ใช้เป็นแหล่งพักอาศัยและหลับนอน เช่น กลุ่มนกนางนวลขนาดใหญ่ (Gull) กลุ่มนกนางนวลแกลบ (Tern) กลุ่มนกกาน้ำ (Cormorant) กลุ่มนกยาง (Egret) เป็นต้น
หาดทรายชายฝั่ง
เป็นแหล่งอาศัยและหากินที่สำคัญของนกประจำถิ่นและนกอพยพย้ายถิ่น ในช่วงฤดูหนาวหลากหลายชนิด โดยเฉพาะกลุ่มนกชายเลนบางชนิดที่มีความผูกพัน กับแหล่งอาหารตามแนวหาดทรายชายฝั่งในระดับน้ำขึ้น-น้ำลง เช่น นกกระแตผี ชายหาด (Beach Thick-knee) นกคอสั้นตีนไว (Sanderling) และนกหัวโตมลายู (Malaysian Plover) ซึ่งเป็นนกชายเลนชนิดเดียวของประเทศไทย ที่สร้างรังวางไข่บนหาดทรายชายฝั่ง
นอกจากนี้ยังมีกลุ่มนกนางนวลแกลบ (Tern) ที่สามารถพบเห็นได้ง่าย ไปจนถึงนกนางนวลขนาดใหญ่ (Gull) บางชนิดที่พบเห็นได้ยากในประเทศไทย เช่น นกนางนวลหัวดำใหญ่ (Pallas’s Gull) และนกนางนวลพันธุ์มองโกเลีย (Mongolian Gull) เป็นต้น
ทะเลและเกาะนอกชายฝั่ง
เกาะกลางทะเลที่มีสภาพภูมิประเทศเป็นป่าและมีหาดทรายชายฝั่ง นับว่ามีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการเดินทางของนกอพยพ ทั้งการใช้เป็นจุดพักผ่อน หลบภัยจากสัตว์ผู้ล่า หลบกระแสลมมรสุม รวมทั้งใช้เป็นแหล่งสะสมพลังงาน
ที่สูญเสียไประหว่างการเดินทางเป็นเวลาสั้น ๆ 2-3 วัน หรือประมาณ 1 สัปดาห์ หลังจากนั้นจึงเริ่มเดินทางไปยังจุดหมายที่ต้องการ สามารถพบได้ทั้งกลุ่มนกน้ำ (Water birds) กลุ่มนกป่า (Forest birds) เช่น นกแต้วแล้วนางฟ้า (Fairy Pitta) นกแซวสวรรค์หางดำ (Japanese Paradise-Flycatcher) กลุ่มนกชายเลน (Shorebirds) เช่น นกอีก๋อยใหญ่ (Eurasian Curlew) นกน็อทใหญ่ (Great Knot) นกปากแอ่นหางลาย (Bar-tailed Godwit) กลุ่มนกทะเล (Seabirds) เช่น นกโจรสลัด (Frigatebird) เป็นต้น
สำหรับเกาะกลางทะเลที่มีลักษณะเป็นภูเขาสูงและมีชะง่อนผา เกาะที่เป็นเนินหิน หรือเกาะที่เป็นกองหินสูงกว่าระดับน้ำขึ้นสูงสุด ยังสามารถ เป็นแหล่งอาศัยและสร้างรังวางไข่ของนกนางนวลแกลบ (Tern) หลายชนิด เช่น นกนางนวลแกลบสีกุหลาบ (Roseate Tern) นกนางนวลแกลบคิ้วขาว (Bridled Tern) และนกนางนวลแกลบท้ายทอยดำ (Black-naped Tern)
นอกจากเป็นจุดพักและหลบภัยของนกอพยพทางทะเลในระยะสั้นแล้ว เกาะกลางทะเลยังเป็นแหล่งอาศัยและสร้างรังวางไข่เฉพาะของนกป่าบางชนิด ที่พบเห็นได้ยาก เช่น นกชาปีไหน (Nicobar Pigeon)