พะยูน
- 25 สิงหาคม 2556
- 3,350
การดำรงชีวิตของพะยูน
พฤติกรรมการกินอาหารของพะยูน
สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน ได้ศึกษาแยกชนิดของหญ้าทะเลในกระเพาะพะยูน ตัวอย่างพะยูนที่ได้รับมีหญ้าทะเลอยู่ในกระเพาะ 2-5 % ของน้ำหนักตัว แม้ว่าจะพบว่าพะยูนไม่ได้เลือกกินหญ้าทะเลชนิดใดชนิดหนึ่งโดยเฉพาะ แต่พะยูนจะกินหญ้าชนิดที่พบมากในแหล่งที่มันอาศัยหากินอยู่ ในแต่ละกระเพาะมีหญ้าทะเลปะปนอยู่ 5-6 ชนิด และสาหร่ายทะเลอีกจำนวนเล็กน้อย จากตัวอย่างทั้งหมดที่ศึกษาพบหญ้าทะเล 9 ชนิด (ในประเทศไทยมีหญ้าทะเล 12 ชนิด) ได้แก่ หญ้าอำพัน หญ้าเงาใส หญ้าชะเงาหรือหญ้าคาทะเล กุยช่ายทะเล กุยช่ายเข็ม หญ้าชะเงาเต่า หญ้าชะเงาใบมน หญ้าชะเงาใบฟันเลื่อย และต้นหอมทะเล หญ้าทะเลที่พบมากในกระเพาะคือ หญ้าอำพันหรือหญ้าใบมะกรูด กุยช่ายทะเล หญ้าชะเงาใบมนและใบฟันเลื่อย
จากการสำรวจแหล่งหญ้าทะเล และได้สังเกตพฤติกรรมของพะยูน ที่เกาะตะลิบง จังหวัดตรัง พบว่า พะยูนจะเริ่มเข้ามาหากินหญ้าทะเลในช่วงที่น้ำทะเลกำลังขึ้น และกินหญ้าทะเลอยู่นานราว 2-3 ชั่วโมง พะยูนจะกินหญ้าทะเลพร้อมทั้งขึ้นมาหายใจทุกๆ 1-2 นาที และจึงดำลงไปกินหญ้าทะเลต่อ บางตัวจะกินหญ้าทะเลต่อในบริเวณใกล้ๆ ที่เดิม ในขณะที่บางตัวจะว่ายน้ำเปลี่ยนที่ไปประมาณ 1-5 เมตร โดยที่ลักษณะทิศทางการกินหญ้าทะเลของพะยูนไม่แน่นอน มีทั้งการหันด้านหัวสู่ชายฝั่ง หันหัวออกทะเล ลำตัวขนานกับชายฝั่ง หรือลำตัวทำมุมเฉียงกับชายหาด ซึ่งพะยูนส่วนใหญ่ที่พบจะกินหญ้าทะเลอยู่ห่างจากชายฝั่งมากกว่า 1 กิโลเมตร ในขณะที่น้ำลงมากพะยูนจะไปอาศัยอยู่ในร่องน้ำห่างชายฝั่งประมาณ 4-5 กิโลเมตร (สังเกตพบเห็นพะยูนอยู่ในร่องน้ำหลังน้ำลงประมาณ 2 ชั่วโมง) ซึ่งสอดคล้องกับกับการศึกษาของสุวรรณและคณะ (2536) โดยพะยูนอาจจะกินหญ้าทะเลในช่วงน้ำขึ้น ทั้งกลางวันและกลางคืน โดยพะยูนที่เกาะปาเลาส่วนใหญ่จะเข้ามากินหญ้าทะเลในตอนกลางคืน เพื่อหลีกเลี่ยงจากอันตรายจากคนและสิ่งแวดล้อมอย่างอื่น สำหรับตอนเหนือของรัฐควีนแลนด์ประเทศออสเตรเลียพบว่าพะยูนจะเข้ามากินหญ้าทะเลในตอนกลางวัน และจะกินหญ้าทะเลวันละประมาณ 30 กิโลกรัม โดยใช้ปากเล็มหรืองับทั้งต้นพืชแล้วส่ายล้างสิ่งเกาะติดอื่นๆ แล้วกลืนทันทีโดยไม่เคี้ยว พะยูนอาจจะอาศัยประจำถิ่นหรือเคลื่อนย้ายถิ่นตามฤดูกาล และพบว่าแม่และลูกพะยูนมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกันเป็นอย่างมาก ทั้งในขณะหากินและในขณะที่ว่ายน้ำ ลูกพะยูนและแม่จะว่ายน้ำหากินอยู่ใกล้ๆ กัน บางครั้งอาจจะห่างกันแต่จะอยู่ในรัศมีประมาณ 1 เมตร ขณะที่ขึ้นมาหายใจพร้อมกันลูกพะยูนจะอยู่ชิดช้างลำตัวแม่ หรืออยู่บนหลังของแม่ และขณะที่กำลังว่ายน้ำออกจากแหล่งหญ้าทะเลก็จะว่ายอยู่เคียงกันตลอด จากการติดตามสังเกตพฤติกรรมการกินหญ้าทะเลของแม่และลูกพะยูน พบว่าลูกพะยูนจะโผล่ขึ้นมาหายใจบ่อยกว่าแม่พะยูน โดยในขณะที่แม่พะยูนกำลังกินหญ้าทะเลอยู่ ลูกพะยูนโผล่ขึ้นมาหายใจ 2-3 ครั้ง แล้วแม่พะยูนจึงโผล่ขึ้นมาหายใจครั้งหนึ่ง (กาญจนา และคณะ, 2540)
การอนุบาลพะยูน
ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รายงานการอนุบาลพะยูนในบ่ออนุบาลจากทั่วโลก พบว่าพะยูนเป็นสัตว์ที่อนุบาลได้ยากในบ่ออนุบาลหรือในที่ล้อมขัง มักอนุบาลอยู่ได้ไม่นานและตายในที่สุด พะยูนที่อนุบาลได้ระยะเวลาสั้นที่สุดเพียง 17 วัน คือ ในประเทศออสเตรเลียเมื่อปี ค.ศ. 1968 ในประเทศอินเดียอนุบาลได้นาน 10 ปีกับ 10 เดือนในระหว่างปี ค.ศ. 1959-1970 ประเทศที่ประสบความสำเร็จในการครองอันดับในการอนุบาลพะยูนในที่ล้อมขังได้ยาวนานที่สุดในโลกจนถึงปัจจุบัน (พ.ศ. 2547) คือ ที่ Toba Aquarium ประเทศญี่ปุ่นอนุบาลพะยูนสองตัวมานานกว่า 25 ปี และยังมีชีวิตอยู่จนถึงปัจจุบัน โดยให้พะยูนกินหญ้าทะเลชนิดหญ้าปลาไหล (Zostera marina) ซึ่งสั่งซื้อมาจากประเทศเกาหลี แต่อย่างไรก็ตาม Toba Aquarium ยังไม่ประสบความสำเร็จในการเพาะพันธุ์พะยูนในตู้อนุบาล ซึ่งผิดกับมานาตีที่อนุบาลง่ายและสามารถให้ลูกในตู้อนุบาลได้ ในขณะที่สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง สามารถอนุบาลได้นาน 30-200 วัน นอกจากนี้ยังมีบันทึกว่ามีการอนุบาลลูกพะยูนอีก 2 ตัว คือในปี พ.ศ. 2525 ลูกพะยูนอนุบาลไว้ที่ศูนย์พัฒนาการเพาะอนุบาลสัตว์น้ำชายฝั่ง จังหวัดสตูล แต่ไม่มีรายงานระยะเวลาในการอนุบาลพะยูน สาเหตุการเสียชีวิต หรือการปล่อยคืนทะเล และพะยูนอีกตัวหนึ่งเป็นลูกพะยูนติดอวนลอยที่หาดเจ้าไหม เมื่อเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2538 และได้ปล่อยกลับกลับทะเลหลังอนุบาลไว้ในกระชังราว 20 วัน ลูกพะยูนที่อนุบาลชอบกินหญ้าอำพันหรือใบมะกรูด (Halophila ovalis)
รูปพะยูนในตู้อนุบาลที่ Toba Aquarium ประเทศญี่ปุ่น และ รูปพะยูนที่ได้รับการอนุบาลนาน 200 วัน พ.ศ. 2534 ณ สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน จังหวัดภูเก็ต
อายุของพะยูน
พะยูนมีอายุยืนยาวมากถึง 70 ปี การทำนายอายุของพะยูนต้องศึกษาจากเขี้ยวของพะยูน (เขี้ยวเป็นฟันชนิดหนึ่ง) ตลอดชีวิตพะยูนมีฟันกรามทั้งหมด 6 คู่ โดยจะทยอยขึ้น ต่อมาจะสึกกร่อน และหลุดไป พะยูนที่อายุมากๆ มีฟันเหลืออยู่ในช่องปากเพียง 2-3 คู่เท่านั้น ฟันของพะยูนทำหน้าที่ในการบดเคี้ยวหญ้าทะเล การบดเคี้ยวอาหารของลูกพะยูนไม่ดีเท่าพะยูนที่โตแล้ว เพราะฟันมีพื้นที่หน้าตัดน้อยกว่าพะยูนที่โตแล้ว นอกจากนี้ตั้งแต่แรกเกิดพะยูนยังมีฟันตัดบนส่วนหน้าของขากรรไกรบนอีก 2 คู่ หรือที่เราเรียกว่าเขี้ยวหรืองา (tusk) โดยเขี้ยวคู่หน้าซึ่งมีขนาดเล็กจะสึกร่อนและหลุดไปเมื่ออายุ 12-15 ปีขึ้นไป ส่วนเขี้ยวคู่หลังมีอยู่ตลอดชีวิตของพะยูน ดังนั้นเขี้ยวพะยูนจึงมีความสำคัญมากในการหาอายุของพะยูน เพราะเป็นฟันชนิดเดียวที่มีอยู่ตั้งแต่แรกเกิดและคงอยู่ตลอดชีวิต ในเพศผู้เขี้ยวงอกพ้นผนังริมฝีปากออกมาเล็กน้อยเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ สันนิษฐานกันว่าพะยูนเพศผู้ใช้เขี้ยวในการต่อสู้แย่งตัวเมียหรือยึดเกาะตัวเมียในขณะผสมพันธุ์ และมีหลักฐานบ่งชี้การต่อสู้ คือรอยแผลเป็นตื้นๆ เป็นคู่ๆ ที่ปรากฏบนหลังพะยูน ซึ่งระยะห่างของแผลใกล้เคียงหรือเท่ากับระยะห่างระหว่างเขี้ยวทั้งสองข้างของพะยูน
การหาอายุพะยูน
ทำโดยการนับชั้นการเจริญเติบโตของเนื้อฟัน (dentine) ในเขี้ยวพะยูน ลักษณะชั้นการเจริญเติบโตคล้ายกับวงปีในต้นไม้ หนึ่งชั้นเท่ากับอายุหนึ่งปี เริ่มจากการนำเขี้ยวพะยูนมาผ่าครึ่งตามความยาวของเขี้ยวโดยใช้เลื่อยรอบต่ำ (low speed saw) ฝนให้เรียบด้วยกระดาษทรายเบอร์หยาบไล่ไปหาเบอร์ละเอียดที่สุด กัดด้วยกรดอ่อนๆ แล้วสามารถนับชั้นการเจริญเติบโตได้ จากการศึกษาอายุของพะยูนในประเทศไทยจำนวน 12 ตัว ความยาวพะยูนอยู่ระหว่าง 1.60-2.73 เมตร เขี้ยวพะยูนยาว 1.6-21.0 ซั่วโมง พบว่า พะยูนที่อายุมากที่สุดคือ 43 ปี เป็นพะยูนเพศเมียจากเกาะกำ จังหวัดระนอง มีความยาว 2.71 เมตร และหนัก 293 กิโลกรัม (Adulyanukosol et. al, 1998) ข้อมูลดังกล่าวสามารถนำมาสร้างได้กราฟความสัมพันธ์ระหว่างความยาวของพะยูนกับอายุ เพื่อทำนายอายุพะยูนคร่าวๆ โดยเมื่อรู้ความยาวพะยูนเป็นเมตร ก็เปรียบเทียบดูอายุจากกราฟ แต่ในกรณีนี้ไม่สามารถใช้กับพะยูนที่มีความยาวมากกว่า 2.5 เมตร เพราะพะยูนที่โตเต็มที่แล้วมีอายุ 10 ปีขึ้นไป มีความยาวไม่เปลี่ยนแปลงมากนักอยู่ในช่วงระหว่าง 2.5-3 เมตร
รูปกราฟแสดงความสัมพันธ์ระหว่างความยาวของพะยูนกับอายุ เสียงของพะยูน (acoustic voice of dugong)
จากการศึกษาวิจัยเรื่องเสียงพะยูนของสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ในการศึกษาเบื้องต้นได้มีการติดตั้ง stereo hydrophone ที่เรือสังเกตการณ์แต่ละลำ จำนวน 2 ลำ เพื่อบันทึกเสียงในน้ำและได้ทำการวิเคราะห์หาระดับความดังเสียง ระยะเวลาต่อเนื่อง และคลื่นความถี่กลางของเสียงร้องจากไฟล์เสียงที่ได้มาจากการบันทึกเสียง ขั้นตอนต่อไปเป็นการวิเคราะห์หาค่าต่างของเวลาที่มาถึงของเสียงร้องระหว่างสองช่อง (channel) และคำนวณทิศทางที่มาถึง (arrival bearing) ของเสียงร้อง ช่วงความถี่ของเสียงร้องของพะยูนอยู่ที่ 3-8 kHz และระยะเวลาต่อเนื่องแยกออกเป็นช่วงสั้นที่ 100-500 ms และช่วงยาวซึ่งมีเสียงร้องนานกว่า 1000 ms โดยประมาณ
ระยะเวลาห่างระหว่างการส่งเสียงร้องแต่ละครั้งมีสองแบบคือ ระหว่าง 0-5 วินาที และนานกว่า 2 วินาที ส่วนทิศทางที่มาถึงของเสียงร้องนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปตามการเคลื่อนที่ของพะยูนจากการคำนวณทิศทางที่ส่งมาถึงของเสียงร้องนั้น จะเปลี่ยนแปลงไปตามการเคลื่อนที่ของพะยูนจากการคำนวณทิศทางที่ส่งมาถึงของเสียงร้องเดียวกันจากหลายๆ จุดทำให้สามารถตรวจวัดตำแหน่งของพะยูนได้อย่างต่อเนื่อง ในปัจจุบันกำลังผลิต voice data logger ที่สามารถทำการบันทึกในน้ำได้โดยอัตโนมัติและมีกำหนดจากที่จะสร้างเครือข่าวสำรวจพะยูนโดยใช้ logger ดังกล่าวนี้ (ฐานข้อมูลทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง
การสืบพันธุ์ของพะยูน
พะยูนไม่ได้ผสมพันธุ์ตามฤดูกาล พะยูนเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 9-10 ปีในทั้งสองเพศ ระยะตั้งท้องนาน 13-14 เดือน (รายงานบางฉบับระบุว่าใช้เวลาประมาณ 385-400 วัน) คลอดลูกครั้งละหนึ่งตัว ลูกพะยูนแรกเกิดยาว 1 - 1.2 เมตรและหนักอยู่ในช่วง 20 – 35 กิโลกรัม น้ำหนักเฉลี่ยประมาณ 20 กิโลกรัม หลังจากคลอด แม่พะยูนจะดันลูกให้ขึ้นสู่ผิวน้ำทันที แล้วชะลอลูกไว้บนหลังในช่วงแรกๆ เพื่อหัดให้ลูกพะยูนหายใจและว่ายน้ำ โดยจะค่อยๆ จมตัวเองและลอยขึ้นเป็นจังหวะ ลูกแรกเกิดกินนมจากแม่พร้อมทั้งเริ่มหัดกินหญ้าทะเล และอาศัยอยู่ใกล้ชิดกับแม่ตลอดเวลาเป็นเวลาประมาณปีครึ่งถึงสองปี โดยทั่วไปลูกพะยูนจะหย่านมแม่หลังจากอายุ 1 ปีไปแล้ว พะยูนอายุ 1 ปี จะมีความยาวประมาณ 1.8 เมตร เมื่อมีศัตรูลูกอ่อนจะว่ายน้ำหลบอยู่บนหลังของแม่ ช่วงอายุในการสืบพันธุ์ยังไม่แน่ชัดนักและจากการสำรวจคาดว่าฤดูกาลการคลอดลูกของพะยูนอยู่ระหว่างเดือนกันยายนถึงเดือนธันวาคม สำหรับการศึกษาถึงฤดูกาลคลอดลูกของพะยูน ในประเทศออสเตรเลียพบว่าจะอยู่ระหว่างเดือนสิงหาคมถึงเดือนธันวาคมและกว่าแม่พะยูนจะมีลูกได้อีกครั้งหนึ่งจะต้องใช้เวลาอย่างน้อย 2 ปี อายุขัยเฉลี่ยของพะยูนอยู่ในช่วงประมาณ 45-70 ปี (กรณีที่อายุยืนยาวตามธรรมชาติ) พะยูนตัวเต็มวัยมีความยาวประมาณสามเมตร ในขนาดความยาวเท่าๆ กัน และตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้เล็กน้อย
การปรับตัวของพะยูน
พะยูนมีรูปแบบการป้องกันตัว 2 ลักษณะ คือ การว่ายน้ำหนีลงร่องน้ำ หากพะยูนรู้สึกว่าถูกคุกคามจะค่อยๆ เคลื่อนที่ลงร่องน้ำใกล้เคียงแล้วว่ายออกสู่ที่ลึก หากตกใจพะยูนจะว่ายหนีอย่างรวดเร็วโดยใช้ครีบหางโบกอย่างเร็ว ส่วนครีบหน้าหุบไว้ข้างตัว โดยมีความเร็วระหว่าง 30 – 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ส่วนพะยูนที่มีลูกอ่อนจะว่ายน้ำช้ากว่า อาจเนื่องจากต้องรอลูกซึ่งว่ายน้ำได้ไม่เร็วนัก และการป้องกันตัวอีกรูปแบบหนึ่ง คือ การกบดานอยู่นิ่งๆ การป้องกันตัวแบบนี้พบได้เพียงหนึ่งครั้งจากการสังเกตุพะยูนบริเวณแหลมหยงหลำ ที่น่าสนใจคือพะยูนมีเทคนิคที่ซับซ้อนขึ้นในการพรางตัว คือ เมื่อพะยูนได้รู้ว่าอาจมีการรุกราน พะยูนตัวหนึ่งใช้หางโบกพัดพื้นทรายอย่างแรงจนตะกอนฟุ้งขึ้น แต่พะยูนก็ไม่ได้เคลื่อนที่ไปที่ใด และอาศัยกบดานนิ่งอยู่ที่พื้นบริเวณที่ตะกอนฟุ้งกระจายอยู่นั่นเอง พะยูนมีการมองเห็นที่ไม่ดีมากนัก แต่การรับรู้เกี่ยวกับเสียงกลับดีมากเป็นพิเศษ พะยูนนอกจากจะสามารถแยกชนิดของแหล่งกำเนิดเสียงได้แล้ว ยังสามารถแยกทิศทางของเสียงได้อีกด้วย ซึ่งเป็นกลไกหนึ่งในการหลบหลีกอันตรายหรือศัตรู